วันพฤหัสบดีที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2554

มวยคู่เอก


(กลอนสุภาพ)

ในวันนี้ มีมวยไทย มาให้อ่าน
ศึกสะท้าน โลกา ผ่าศักดิ์ศรี
ฝ่ายแดงไซร้ ไผ่ปลิวลม คมกวี
หมัดเขานี้ หนักแน่น แผ่นดินคลอน

ฝ่ายสีเหลือง เลื่องชื่อ ระบือล้น
ละอองฝน ผู้ดื่มด่ำ ฉ่ำอักษร
มวยรุ่นใหญ่ ใจกล้า ร้อยห้าปอนด์
เริ่มการฟ้อน ไหว้ครู ดูลีลา

ไผ่ปลิวลม ข่มขู่ ดูเชิงฝน
แล้วเสกมนตร์ ซุปเปอร์แมน ทั่วแขนขา
ฝนร่ายรำ ย้ำชั้นเชิง เซิ้งลีลา
ตีลังกา กวนไผ่ ให้เสียรมย์

กรรมการ เตือนทั้งคู่ ให้รู้พร้อม
อย่าออมชอม ให้มากนัก จักขื่นขม
เสียงระฆัง ดังสรรเสริญ เชิญรับชม
ใครจะล้ม หรือยืนคว้า สง่าชัย


(กาพย์ยานี ๑๑)

ไผ่โผ พุ่งเกียวกราด...............แจกพระบาท มิหวาดไหว
ฝนหลบ อย่างว่องไว...............สวนศอกไซร้ เข้าท้ายทอย

ด้านไผ่ เสียจังหวะ.................ปวดศรีษะ แทบละห้อย
ฝนจ้อง ประคบคอย................หมายจะสอย ซ้ำอีกครา

ฝนตาม ไปทุกที่...................รอบเวที ทั้งหลังหน้า
แล้วใช้ กระบวนท่า.................ลูกบาทา อันไร้เงา

ไผ่หนีบ ขาฝนไว้...................สวนหมัดไป อย่างเร่งเร้า
ฮุคขวา ได้เข้าเป้า.................โดนเต็มเบ้า ตาทันใด

ด้านฝน คร่ำครวญโหย.............ร้องดัง โอ๊ย! โลหิตไหล
ระฆัง ดังเร็วไว......................ทั้งสองไป คนละมุม

(กลอนสุภาพ)

พี่เลี้ยงฝน บอกว่า อย่าใจร้อน
ค่อยค่อยต้อน เจ้าไผ่ ให้ลงหลุม
พี่เลี้ยงไผ่ บอกว่า หาทางคุม
จับฝนทุ่ม แล้วซ้ำ กระหน่ำเติม

คำชี้แนะ จากครู ผู้ฝึกสอน
เสมือนพร พร่างใจ ให้ฮึกเหิม
แว่วระฆัง ดังสำเนียง เสียงเหมือนเดิม
คือการเริ่ม ยกที่สอง เป็นต้องลุย!!!

(กาพย์ยานี ๑๑)

ไผ่วน รอบเวที......................ฟุตเวิร์คดี ไม่มีชุ่ย
ควงหมัด ซัดหละกุย................ทะลวงตุ้ย ท้องสะดือ

ฝนเจ็บ ถึงลำไส้....................แต่เจ้าไผ่ ยังตามตื้อ
ฝนด่าว่า กระบือ”.................แล้ววิ่งปรือ หลบฉากไป

ไผ่พาล อารมณ์เดือด..............เริ่มบ้าเลือด แล้วตามไล่
"เจาะยาง" ฝนทันใด................"สอยดาว"ใส่ เต็มปลายคาง

ไม่พอ ยังตามกวาด.................ด้วยพระบาท "เข้ฟาดหาง"
ฝนลอย ปลิวเคว้งคว้าง.............แล้วร่วงกลาง เวทีพลัน

ฝนเจ็บ สะท้านแสบ................ร่างกายแทบ นิทราฝัน
ระฆัง หมดยกนั่น....................ช่วยชีวัน เจ้าฝนไป

(กลอนสุภาพ)

มุมสีแดง เตรียมเคล็ด เผด็จศึก
กำปั้นถึก สะท้านฟ้า โลกาไหว
มุมสีเหลือง เคืองเจ็บ เหน็บช้ำใน
แต่ซ่อนไว้ กระบวนท่า มหามวย

ไผ่ได้ใจ ไม่หวั่น รอหั่นฝน
กะพุ่งชน ให้เต็มหมัด ซัดท่าสวย
เพราะเมื่อกี้ ดวงฝน ดันพ้นซวย
ระฆังช่วย เอาไว้ ไม่งั้นตาย

ฝนผนึก ปึกพลัง ที่สั่งสม
ล้างระบม พิษบาดแผล แก้ให้หาย
รวมลมปราณ ซ่านไหว ทั้งใจกาย
ยกสามหมาย ตัดสิน ด้วยวิญญาณ

(กาพย์ยานี ๑๑)

ระฆัง ดังผงาด.......................วงปี่พาทย์ บรรเลงขาน
ไผ่บุก รุกเชิงมาร..................."เถรกวาดลาน" ฝนร่วงไป

ฝนยัง ลุกขึ้นมา.....................อีกร้อยครา ก็ยังไหว
ไผ่แย๊บ ซ้ายเข้าใส่...................ฝนหลีกไกล ใช้ตาดู

หมัดโหด ไผ่นำร่อง.................อัดเต็มท้อง และบ้องหู
เลือดไหล หลั่งพลั่งพรู..............ฝนยังสู้ ด้วยมาดแมน

ฝนสวน ดวลตะหง่าน................"หนุมาน ถวายแหวน"
ไผ่ร้าว ระทมแสน...................เพิ่มความแค้น มากอนันต์

ไผ่โหด กระโดดถีบ.................แล้วจึงรีบ "สับศอกสั้น"
ฝนรับ ได้ทันควัน...................แล้วสวนพลัน "สลับฟันปลา"

ไผ่ทรุด ลงกับพื้น...................มิอาจยืน เพราะอ่อนขา
"หนุมาน เหยียบลงกา"..............แสกเต็มหน้า ไผ่ปลิวลม

เลือดไหล ทั่วเวที...................ปฐภี แทบทรุดล่ม
ฝนใช้ ไม้ตายข่ม....................ใส่ปลิวลม สุดพลัง

(กาพย์สุรางคนางค์ ๒๘)

ต่อยซ้ายต่อยขวา.........ต่อยคางต่อยหน้า
เตะท้องเตะหลัง..........เตะหัวเตะคอ
เต็มข้อเต็มถัง............สำเนียงเสียงดัง.........สนุกเร้าใจ

พระพักตร์แทบแหก......ศรีษะปริแตก
โลหิตหลั่งไหล...........แถมให้อีก โป๊ก!!!
หัวโขกทันใด.............เดือนดาวพราวใส.......ที่ไผ่ปลิวลม

(กลอนสุภาพ)

หนึ่งสองสาม สี่ห้า หกเจ็ดแปด
ไผ่นอนแผด ราบพื้น ด้วยขื่นขม
ไผ่ลุกขึ้น ด้วยสองขา น่าชื่นชม
แลช่างสม เป็นขวัญศรี ที่ได้ดู

ไผ่กระโจน โผนถลา เข้าหาฝน
สุดจะทน เข้าฟาดฟัด แล้วกัดหู
กรรมการ จับแยกทั่ว จนหัวฟู
ปรับแพ้คู่ ยุติชก ตกรอบเอย   

.....
โดย อักษราวารี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น